สะพาน

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562

สะพานชมัยมรุเชฐ

สะพานชมัยมรุเชฐ บูรณะปีพุทธศักราช  ๒๕๐๔

สะพานนี้คือ  ???


ชื่อ              สะพานชมัยมรุเชฐ
                 ความหมาย พจนานุกรรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒
                     "ชไม" เป็นคำเขมร มีความหมายว่า "ทั้งคู่ ทั้งสอง"
                     "มรุ"   มีความหมาย ๒ ประการ คือ ทะเลทรายที่กันดารน้ำ
                                                                       เทวดาพวกหนึ่ง
                     "เชฐ" พจนานุกรมฯสะกดว่า "เชษฐ"  มีความหมาย ๒ ประการ คือ
                                เป็นนาม หมายถึง พี่ผู้เป็นใหญ่
                                เป็นวิเศษณ์  หมายถึง เจริญที่สุด
สร้าง          พุทธศักราช ๒๔๔๔ 
บูรณะ          พุทธศักราช ๒๕๐๔
อายุ              ๕๘ ปี
ประวัติ         ใน พ.ศ. ๒๔๔๔ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวไลยลงกรณ์ทรงเจริญพระชนมายุ ๑๗ พรรษา เสมอพระเชษฐา ๒ พระองค์ ทรงสร้างเพื่ออุทิศส่วนพระกุศลถวายพระเชษฐาทั้ง ๒ พระองค์ ซึ่งสวรรคตและสิ้นพระชนม์ คือ
                        - สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
                        - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสมมติวงศ์วโรทัย กรมขุนศรีธรรมราชธำรงฤทธิ์
                    รัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯพระราชทานนามว่า "ชมัยมรุเชฐ" ความหมายว่า พี่ชายผู้เป็นเทพ ๒ พระองค์
                    รัชกาลที่ ๕ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และสมเด็จฯเจ้าฟ้าวไลยลงกรณ์ ทรงเปิดสะพานเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ.๒๔๔๔

ที่อยู่   คลองเปรมประชากร ถนนพิษณุโลก เขตดุสิต  กรุงเทพมหานคร


ลักษณะทางสถาปัตยกรรม  ???
 
ปีพุทธศักราช ๒๕๐๔ 
มีการบูรณะขยายต่อเติมสะพานจนไม่มีสภาพดั้งเดิมไว้
มีเพียงป้ายโลหะชื่อสะพานที่ยังคงของเดิมไว้

บนราวสะพานมีลวดลายที่อ่อนช้อย

สถานที่อยู่ติดกับสะพานชมัยมรุเชฐ  ???

ทำเนียบรัฐบาล

ศาลเจ้าพ่อกรมหลวงชุมพร อุดมศักดิ์


กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียน 
"สะพานชมัยมรุเชฐ" 
เป็นโบราณสถานที่สำคัญของท้องถิ่น
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา 
เล่มที่ ๙๒ ตอนที่ ๖๑ 
วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๘


วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2562

สะพานปีกุน


สะพานปีกุน พุทธศักราช ๒๔๕๔ 

          ความมืดของบรรยากาศกับแสงสลัวๆทำให้ค้นหาว่าชื่อสะพานกับลักษณะทางสถาปัตยกรรมตรงไหนที่บ่งบอกว่าควรชื่อสะพานนี้กันน่ะ

สะพานนี้คือ ???


ชื่อ         สะพานปีกุน

สร้าง      พุทธศักราช ๒๔๕๔

อายุ        ๑๐๘  ปี

ประวัติ   สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ทรงบริจาคพระราชทรัพย์สร้างสะพาน  เนื่องในวโรกาสพระชนมายุครบ 4 รอบ  เนื่องจากเป็นสะพานที่มีขนาดเล็กจึงไม่ได้รับพระราชทานชื่อ  เนื่องจากมีรูปอนุสาวรีย์หมูอยู่บนฝั่งคลองด้านตะวันตกใกล้เชิงสะพาน  คนทั่วไปจึง เรียกว่า "สะพานหมู" 

ที่อยู่   คลองคูเมืองเดิม เขตพระนคร  กรุงเทพมหานคร

ลักษณะทางสถาปัตยกรรม  ???

สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก คั่นด้วยเสาคอนกรีตเป็นระยะ


ราวสะพานมีลักษณะเป็นเหล็กกลมทอดไปตามยาว

เสาที่เชิงสะพานทั้ง ๒ ฝั่ง มีทั้งหมด ๔ ต้น  

ต้นเสา หมายถึง เทียนประทีปพระชันษาเป็นตะเกียงไม่มีแสง หมายความถึง ๔ รอบพรรษา เมื่อขาดพระราชสวามีไปก็คล้ายดวงชวาลาที่อับแสง ขาดความรุ่งโรจน์

หัวเสาเป็นรูปถ้วยประดับช่อมาลามีวงรูปไข่ ๔ วง

เสาคอนกรีตเซาะร่อง

สะพาน ๒ ฝั่งมีบันไดเป็นรูปครึ่งวงกลม ๖ ขั้น

สถานที่ติดกัน ???

อนุสาวรีย์หมู 

เรียกอีกชื่อว่า     อนุสาวรีย์สหชาติ 

สหชาติ                หมายถึง ผู้ที่เกิดปีนักษัตร(ปีกุน)  

ผู้สร้าง                  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์, พระยาพิพัฒนโกษา และพระยาราชสงคราม ได้ร่วมกันสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ถวายสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เมื่อมีพระชนมายุครบ 50 พรรษา  ออกแบบเป็นรูปหมูยืนบนเนินหินชนวนสีเทา มีขนาดกว้าง ๘๐ ซม. สูง ๕๘ ซม.  มีศิลาจารึกถวายพระพรและชื่อผู้สร้าง  

สร้าง                    พุทธศักราช ๒๔๕๖

วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียน 
"สะพานปีกุน "
เป็นโบราณ
สถานที่สำคัญของชาติ 
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เล่มที่  ๙๒ ตอนที่  ๖๑ 

วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ 
              



อ้างอิง : ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม
             "สะพานปีกุน"จุดเช็คอินปีหมู!สยามรัฐ
              ศูนย์ข้อมูลเกาะรัตนโกสินทร์

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

สะพานช้างโรงสี

สะพานช้างโรงสี  รัตนโกสินทรศก ๑๒๙

                     แสงที่ส่องจากพระจันทร์และดวงดาวได้ผ่านห้วงเวลารัตนโกสินทรศกจนมาสู่แสงสว่างหลอดไฟLed ช่วงเวลาที่ยาวนานทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย

สะพานแห่งนี้คือ  ???

ชื่อ                สะพานช้างโรงสี
                     ชื่อนี้เกิดจากที่เคยมีโรงสีข้าวตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง

สร้าง            รัตนโกสินทรศก ๑๒๙ (พุทธศักราช ๒๔๕๓)
อายุ              ๑๐๙ ปี

ประวัติ         ในสมัยรัชกาลที่ ๕ รัตนโกสินทรศก ๑๐๖ (พุทธศักราช ๒๔๓๐) มีการสร้างสะพานช้าง  สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นต้องใช้ช้างในการทำศึกสงคราม จึงต้องทำสะพานสำหรับช้างข้ามคลองคูเมืองเดิมเพื่อเข้าเขตราชธานี  
                    พุทธศักราช ๒๔๕๓  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาดำรงราชานุภาพเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยพระองค์แรก ประสูติ ปีจอ รัตนโกสินทรศก ๘๐  เมื่อคราวเฉลิมฉลองพระชันษาครบ ๔ รอบ ได้บริจาคทรัพย์สร้างสะพานเป็นกุศลสาธารณะไว้ข้างกระทรวงมหาไทย ๑ สะพาน โดยมีสัญลักษณ์เป็นนักษัตรปีจอ


ที่อยู่   คลองคูเมืองเดิม เขตพระนคร  กรุงเทพมหานคร
แผนที่การเดินทาง📌

ลักษณะทางสถาปัตยกรรม  ???

    สมัยรัชกาลที่ ๕ รัตนโกสินทรศก ๑๐๖ (พุทธศักราช ๒๔๓๐)    สะพานมีลักษณะเป็นตอม่อก่ออิฐและทอดไม้ซุงเหลี่ยมหนาใหญ่แข็งแรงเป็นพื้นพอที่ช้างจะเดินข้ามได้ จึงจะเรียกว่าสะพานช้าง  แล้วก็มีแต่สะพานนี้เท่านั้นที่ยังคงใช้ชื่อว่า สะพานช้างโรงสี 
    รัตนโกสินทรศก ๑๒๙ (พุทธศักราช ๒๔๕๓)  บูรณะสะพานเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก  ปลายสะพาน ๔ มุมประดับรูปหัวสุนัขมีอักษรบอกรัตนโกสินทรศก ๑๒๙
    พุทธศักราช ๒๕๑๘  ทางกรุงเทพมหานครได้ปรับปรุงขยายสะพานออก โดยคงลักษณะรูปแบบเดิมไว้ทุกประการ



หัวเสามีรูปปั้นหัวสุนัขทั้ง 2 ด้านมีสัญลักษณ์เป็นนักษัตรปีจอที่ตรงกับปีประสูติของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และอักษรบอกรัตนโกสินทรศก ๑๒๙ เป็นสัญลักษณ์ของปีที่ซ่อมสะพานเสร็จ ที่ปลายสะพาน 4 มุม  

ตัวเสามีแผ่นศิลาจารึก

บนราวสะพานมีลวดลายเป็นลายเกลียวเชือก

ลวดลายของลูกกรงราวสะพานเป็นปูนหล่อโปร่งเบา

โครงสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก  คานสะพานโค้ง

สถานที่อยู่ติดกับสะพานช้างโรงสี  ???

กระทรวงมหาดไทย

กระทรวงกลาโหม

กรมแผนที่ทหาร

อาคารพาณิชย์

กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียน 
"สะพานช้างโรงสี "
เป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติ 
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา 
เล่มที่  ๑๐๕ ตอนที่  ๑๘๘ 
วันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ 

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562

สะพานมหาไทยอุทิศ เรียกกันอีกชื่อว่า "สะพานร้องไห้"


สะพานมหาดไทยอุทิศ  หรือ สะพานร้องไห้ พุทธศักราช ๒๔๕๗
สะพานมหาดไทยอุทิศ  พุทธศักราช ๒๔๕๗
ท่ามกลางแห่งความมืดก็ยังมีแสงไฟจากสิ่งต่างๆ 
ความเงียบเหงาในยามวิกาลก็ยังมีผู้คนที่เดินผ่าน
มองภาพที่สะพานก็ยังเกิดความรู้สึกเศร้าไปด้วย
              

สะพานแห่งนี้คือ ???


       ชื่อเป็นทางการ               สะพานมหาดไทยอุทิศ
                                                      
       ชื่อไม่เป็นทางการ          สะพานร้องไห้  (คนจะรู้จักกัน ถามก็ร้องอ๋อ!! )

       อายุ               ๑๐๕ ปี

       สร้าง             พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖  เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีปิดใช้เป็นทางการเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๗  ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระปิยมหาราช   รัชกาลที่ ๕
                            
       ประวัติ          เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕  ไม่ทันได้ก่อสร้างพระองค์เสด็จสวรรคตเสียก่อนเลยค้างเติ่งอยู่นาน      เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรักและอาลัยต่อการจากไปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕  ผู้ทรงคุณอนันต์แก่พสกนิกรชาวสยาม พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยุ่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ โดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสนาบดีกระทรวงมหาไทยร่วมกับข้าราชการของกระทรวงทั่วประเทศร่วมกันบริจาคค่าก่อสร้าง  สิ้นค่าก่อสร้างไปทั้งสิ้น ๕๗,๐๕๓ บาท ๒๙ สตางค์  
                      
        

ที่อยู่    คลองมหานาค แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัพรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
       
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม ???

สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก Hennebique System ซึ่งเป็น
เทคนิคสมัยใหม่ที่สร้างขึ้นตามรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรป
ค่อนข้างสวยและยาวที่สุดในไทยสมัยนั้น

 กลางสะพานมีแผ่นจารึกนามสะพาน ปีพุทธศักราชที่สร้างเสร็จ รูปวงจักรข้างละ ๑ วง

สองข้างแผ่นจารึกเป็นเสาซุ้มที่หน้าจั่วมีเครื่องหมายและมีภาพประติมากรรมรูปปั้นนูนต่ำเป็นรูปชาวบ้านแสดงอาการร้องไห้เศร้าโศกทั้ง ๒ รูป แสดงให้เห็นว่า สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ ๕                                                         

     หน้าจั่วด้านหัวเสามีป้ายเลข ๕                
     ตัวเสามีรูปผู้หญิงอุ้มเด็กถือช่อซ่อนกลิ่น 
     กำลังยืนร้องไห้                                       

     หน้าจั่วด้านหัวเสามีป้ายอักษรย่อ จปร. 
     ตัวเสามีรูปผู้ชายยืนจับบ่าเด็ก               

ประติมากรรมลายปูนปั้นราวสะพานเจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส 
ภายในบรรจุพวงหรีดปูนปั้นแบบฝรั่ง   สัญลักษณ์แห่งการรำลึก
และอาลัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕           

ประติมากรรมนูนต่ำพวงมาลัยประดับเหนือซุ้มราชสีห์ อุบะ


 สถานที่ใกล้เคียงสะพานมหาดไทยอุทิศ ???




ป้อมมหากาฬ





กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียน 
"สะพานมหาไทยอุทิศ" 
เป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติ 
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา 
เล่มที่ ๙๒ ตอนที่ ๖๑ 
วันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๘

             แม้อายุของสะพานจะมากขึ้นเรื่อยๆ
             แต่คุณค่าของสะพานจะมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา !!!

             

อ้างอิง :      วิกิพีเดีย  https://th.wikipedia.org/wiki/สะพานมหาไทยอุทิศ
                 ใหม่ซ้อน, ณัฐดนัย(2015-09-12) "สะพานมหาดไทยอุทิศ เพชรล้ำค่ามรดกทางวัฒนธรรม" สำนักข่าวอิศรา.